ทริปนี้เรียกได้ว่าทริปทรหดอีกทริปนึงครับ ซึ่งผู้ร่วมชะตากรรมของผมก็คือน้องของผมเอง555 เริ่มต้นการเดินทางด้วยคิดรถตู้อนุเสาวรีครับ ซึ่งจะมีบริการทุกปีในช่วงที่เขาเปิดให้ขึ้นไปนมัสการรอยพระพุทธบาท ราคาตั๋วไปกลับประมาน 600 บาทต่อคนครับ ซึ่งจะพาราขึ้นมาถึงทางขึ้นเขาเลยครับ จากนั้นก็ต่อรถขึ้นเขา อีก 2 ต่อ(หารูปไม่เจอ) และจะมาถึงจุดเริ่มต้นการเดินทางของเราในค่ำคืนนี้ครับ
ขณะนี้เวลาประมาน 3 ทุ่มเราก็เริ่มออกเดินขึ้นเขากันเลยครับ ซึ่งจะสังเกตุได้ว่ามีผู้คนเยอะเเยะมากมาย ซึ่งระหว่างเส้นทางจะมีจุดเเวะพัก แวะกิน เเวะนอน และเเวะทำบุญกันตลอดเส้นทาง ให้พอหายเหนื่อยเเล้วเตรียมตัวออกเดินทางกันต่อครับบ
ออกเดินทางต่อและแวะทำบุญกันตามกำลังศัทรธาครับ ซึ่งตอนนี้เรามาถึงจุดที่ไกล้กับรอยพระพุทธบาทเต็มทีเเล้วครับ
เมื่อเรามาถึงตรงจุดรอยพระพุทธบาทแล้ว จะเห็นว่าคนแน่นแออัดมาก บ้างก็หลับนอน บ้างก็หาอะไรรองท้อง และที่เยอะที่สุกคือการต่อคิวเพื่อเข้านสัมการรอยพระพุทธบาท ซึ่งเมื่อเราเห็นเเล้วก็ตัดสินใจเดินทางต่อแล้วค่อยกลับมานสัการรอยพระพุทธบาทในช่วงเช้าเเทนครับ Let’ go.
เมื่อออกเดินทางต่อสักพักเราก็ถึงจุดนี้ครับ ซึ่งมีชื่อว่า ลานอินทร์ น่าจะเป็นจุดที่สูงที่สุดของที่นี้เเล้ว อากาศโปร่ง โล่งสบาย มีคนสรรจรไปมาตลอดทั้งคืน เราเลยตัดสินใจแวะพักที่นี้ 2 ชั่วโมงครับ
จากนั้นเราก็ออกเดินทางกันต่อประมาเกือบตีสองครับ โดยเดินไปตามทาง ทางไปผ้าแดง ก็จะเจอจุดที่นมัสการพระบรมสารีริกธาตุและจุดไหว้พระอินทร์ ซึ่งจุดตรงนี้จะมีการทำบุญเจิมกระเป๋าสตางร์ด้วย เลยลองไปต่อแถวดูบ้างครับ จากนั้นออกเดินทางกันต่อเพื่อมุ่งหน้าไปผ้าแดงครับ
และแล้วเราก็มาถึงจุดที่ไกลที่สุดจนได้ครับนั้นก็คือ ผ้าแดงเเห่งนี้
จากนั้นเราก็เดินย้อนกลับ เพื่อที่จะไปนมัสการรอยพระพุทธบาทในตอนรุ่งสางกันครับ ซึ่งเมื่อมาถึงคนก็ยังเยอะมากก เอาว่ะ เอาไงเอากัน มาแล้วต้องเข้าไปนมัสการให้ได้^^
จนเวลาประมาน 6 โมงเช้าพอดีครับ
เมื่อเสร็จภารกิจแล้ว ก็เตรียมตัวลงจากเขาและแวะรับประทานอาหารข้างล่าง จากนั้นก็รอรถตู้มารับกลับกรุงเทพเลยครับ….
