เนื่องจากทริปที่ผ่านมาเราเดินทางกันไปที่ Osaka ประเทศญี่ปุ่น และได้เลือกทำประกันของทาง ซิกน่า ประกันภัย(Cigna Insurance) https://travel.cigna.co.th/CIMS/#/?travelType=01 ไว้โดยซื้อออนไลน์ผ่านทางหน้าเว็บไซต์ดังนี้
โดยในกรมธรรม์มีรายละเอียดดังนี้
ในส่วนของความคุ้มครองที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ดังนี้
และการเดินทางในครั้งนี้ก็เกิดการป่วยเป็นไข้หวัดกระทันหัน เนื่องจากสภาพอากาศ ทำให้ทริปนี้ดูหงอยๆ กันไปเลย 555+ ด้วยความที่ทำประกันไว้เลยถือโอกาสใช้สิทธิ์ซะเลย เริ่มต้นด้วยการติดต่อกับมาสอบถามข้อมูลของ Cigna insurance ทางโทรศัทพ์ จากการสอบถามจากเจ้าหน้าที่ได้รับข้อมูลดังนี้
เจ้าหน้าที่สอบถามอาการเบื้องต้น และทำการเปิดเคสในระบบให้ จากนั้นแจ้งว่าให้เราไปทำการรักษา ณ สถานพยาบาล ใดๆ ก็ได้ โดยจะต้องสำรองจ่ายไปก่อน(ฟังดูแล้วไม่ค่อยสะดวกเท่าใหร่ 555+) ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาล หรือคลีนิค
เริ่มกันเลยดีกว่า…
เราเดินทางไปหาหมอกันที่คลีนิค Raffles Medical Osaka Clinic ซึ่งอยู่ใน Herbis Plaza ใกล้สถานี JR Osaka Sta.
ทำการกรอกแบบทดสอบระบุอาการ
รีวิวประกัน cigna 
รีวิวประกัน cigna
หลังจากนั้นรอพบแพทย์ รอใบสั่งยา และทำการชำระเงินค่ารักษาพยาบาลจำนวน 15,163 เยน โดยทางสถานพยาบาลจะออกใบรับรองเพื่อนำไปเครมกับบริษัทประกันต่อไป
จากนั้นนำใบสั่งยาที่ได้จากทางคลีนิค ไปยื่นที่ร้านขายยาต่อไป
จากนั้นเดินไปร้านข้างๆ ซึ่งเป็นร้านขายยามีชื่อว่า Kirindo Pharmacy ซึ่งอยูใน Herbis Plaza เช่นกัน พร้อมทั้งยื่นใบสั่งยาให้เจ้าหน้าที่
หลังจากนั่งรอสักชั่วครู่หนึ่ง เจ้าหน้าที่ก็เรียกไปรับยาและแจกแจงรายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับตัวยาที่ใช้ รวมทั้งออกใบเสร็จรับรองจากทางร้านเพื่อนำไปเครมประกันต่อไป โดยค่ายาอยูที่ราคา 2,980 เยน
นอกจากนี้ยังมีค่ายาที่หาซื้อทางเองระหว่างทางเช่น ยาลดกรดในกระเพาะ และพวกยาอมแก้เจ็บคอต่างๆ ตามร้านสะดวกซื้อทั่วไปดังนี้
สรุปค่ารักษาพยาบาลและค่ายา
รายการตามแพทย์สั่ง
ค่ารักษาพยาบาล(Raffles Medical Osaka Clinic) 15,163 YEN
ค่ายาตามแพทย์สั่ง (Kirindo Pharmacy in Herbis Plaza) 2,980 YEN
รวม 18,143 เยน
รายการที่แพทย์ไม่ได้สั่ง
ยาอมแก้เจ็บคอ จาก(Kirindo Pharmacy in Herbis Plaza) 645 YEN(มีใบเสร็จ)
รวม 645 เยน
เนื่องจากมีอาการกรดใหลย้อนในระหว่างเดินทางยากรดใหลย้อน 945 YEN
รวม 945 เยน
***รายละเอียดเพิ่มเติมตามใบเสร็จและนอกจากนี้ยังมีค่ายาที่ซื้อทานเองจากร้านขายยา
รวมทั้งสิ้น 19,733 เยน
จากนั้นเก็บรวมรวมเอกสารหลักฐานต่างๆ แล้วนำใบเสร็จกลับมาติดต่อทำเรื่องเครมประกันหลังจากกลับถึงประเทศไทยต่อไป
หลังจากกลับถึงไทย ก็ได้ติดต่อทำเรื่องเครมประกันผ่านทางคอเซ็นเตอร์ โดยเจ้าหน้าที่เเจ้งว่าจะต้องเตรียมเอกสารและนำส่งดังนี้
ใบรับรองแพทย์ ตัวจริง
ใบเรียกร้องสินใหมทดเเทน –> ดาวล์โหลดได้ผ่านหน้าเว็บไซต์
ใบเสร็จค่ายา ตัวจริง
ใบเสร็จค่ารักษาพยาบาล ตัวจริง
สำเนาหน้า passport พร้อมรับรองสำเนา
หน้าสมุดบัญชีธนาคาร พร้อมรับรองเสาเนา
โดยจัดส่งเอกสารไปที่
ปณ 111 ปณศ. รองเมือง กรุงเทพ 10330 หรือยื่นที่ Cigna สำนักงานใหญ่เพลินจิต ชั้น 8
หลังจากรวมรวมเอกสารและส่งหลักฐานไปทาง EMS เพื่อขอค่าสินใหมทดแทนเมื่อวันที่ 03 May 2019 แล้ว ทางบริษัทได้ทำการตอบกลับทาง SMS ดังนี้
จากนั้นรอประมาณ 2 สัปห์ดา(28 May 2019) ได้รับแจ้งจากทางบริษัทประกันว่า ได้โอนเงินค่าสินใหมทดแทนเข้าบัญชีที่ให้ไว้เรียบร้อยแล้ว
จากการตรวจสอบยอดเงินที่ได้มาเป็นเงินไทย น่าจะเครมได้เฉพาะยอดที่รักษาและมีใบรับรองเท่านั้น ส่วนพวกยาอื่นๆ นอกใบสั่งแพทย์ไม่สามารถเบิกได้
สรุปการใช้ประกันเดินทางของทาง Cigma Insurance ที่ประเทศญี่ปุ่นดังนี้
หากซื้อประกันเดินทางกับทางซิกม่านั้น สามารถขอสินใหมทดแทนได้ตามที่กรมธรรม์คุ้มครองโดยจะต้องสำรองเงินจ่ายไปก่อน และขอเอกสารหลักฐานจากสถานพยาบาล นั้นๆ กลับมาเพื่อประกอบการเครมประกันเท่านั้น การซื้อยาทานเองและเก็บใบเสร็จจากทางร้านต่างๆ ไม่สามารถนำมาเบิกได้
ในการรักษาพยาบาลของญี่ปุ่นั้นจะไม่เหมือนกับไทย โดยของญี่ปุ่นจะแยกกันระหว่างการรักษาพยาบาล(หาหมอ) และการจ่ายยา กล่าวคือ
รักษาพยาบาล(หาหมอ) จะได้แค่การพบแพทย์ จากนั้นจะออกใบสั่งยาจากทางแพทย์ไปร้านขายยาซึ่งเราสามารถนำไปซื้อยาที่ใหนก็ได้
การจ่ายยา จะเป็นหน้าที่ของเภสัช ที่ประจำอยู่ตามร้านยาต่างๆ โดยจะจ่ายยาเฉพาะที่แพทย์สั่งเท่านั้น(ที่สามารถนำมาเครมประกันได้) หากเป็นยาที่แพย์ไม่ได้สั่งจะไม่สามารถเครมประกันได้
และสุดท้ายในส่วนของระยะเวลาในการขอสินใหมทดแทนที่ผมส่งเรื่องไปนั้นจนกระทั้งเงินเข้าบัญชี อยู่ที่ประมาน 3 สัปห์ดาครับ
